หากเป็นสมัยก่อนหลายคนคงคุ้นเคยกับรถกับข้าวหรือรถกระบะขายผลไม้ที่แปลงสภาพจากรถกระบะธรรมดามาบรรทุกวัตถุดิบที่สดใหม่เอาไว้ในรถ ช่วยอำนวยความสะดวกด้วยการขับเข้าไปถึงแหล่งชุมชนต่างๆ ทำให้แต่ละบ้านไม่ต้องออกไปไหนก็สามารถได้วัตถุดิบดีๆ ไปรับประทานกัน แต่ปัจจุบันวงการต่อเติมรถกระบะขายของพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากการต่อเติมหลังคา กระบะหลายคันยังพัฒนาไปเป็น Food Truck ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังฮิตเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการต่อเติมรถกระบะขายของนั้นต้องคำนึงถึงหลายส่วนด้วยกัน เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าการต่อเติมส่วนนี้ไม่ให้ผิดกฎหมายต้องดูสิ่งใดบ้าง
รู้กฎของการขนของสำหรับรถกระบะเชิงพาณิชย์
ก่อนจะไปดูข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับการต่อเติมรถกระบะขายของ การรู้กฎของการขนของสำหรับรถกระบะเชิงพาณิชย์ก็เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับตัวรถกระบะที่มีความกว้างตัวรถเกิน 2.30 เมตร สามารถต่อเติมให้มีความสูงได้ไม่เกิน 3.80 เมตรเท่านั้น โดยการบรรทุกจะต้องไม่เกินความกว้างตัวรถเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน โดยจะต้องมีการป้องกันสิ่งของที่บรรทุกไม่ให้หล่นร่วงตามทางอย่างรอบคอบ
ต่อเติมรถกระบะขายของ : ข้อกำหนดสำหรับการเติมหลังคาและคอก
หากจะต่อเติมรถกระบะขายของก็คงหลีกเลี่ยงการเติมหลังคาหรือเติมคอกได้ยาก ทั้งสองการต่อเติมมักจะมาคู่กันเสมอ แต่เอกสารและข้อกำหนดนั้นจะแตกต่างกันเล็กน้อย
- เติมหลังคา : ต้องมีใบรับรองจากวิศวกรต่อเติมเป็นเอกสารดำเนินการติดตั้ง
- เติมคอก : ให้ยึดตามหลักการบรรทุกของสำหรับรถกระบะเชิงพาณิชย์
ต่อเติมรถกระบะขายของ : โหลดกระบะได้แค่ไหน?
การโหลดกระบะช่วยเรื่องการควบคุมและการทรงตัวของรถ ดังนั้นคำถามเกี่ยวกับการโหลดกระบะจึงเป็นหนึ่งในหัวข้อฮิตสำหรับคนที่สนใจต่อเติมรถกระบะขายของ การโหลดกระบะนั้นมีทั้งการโหลดต่ำและการโหลดสูง ข้อกำหนดถูกระบุเอาไว้ว่าการวัดระดับความสูงจะวัดจากพื้นถนนจนถึงระดับกึ่งกลางของไฟหน้า สำหรับการโหลดต่ำจะต้องไม่ต่ำกว่า 40 เซนติเมตร ส่วนการโหลดสูงนั้นเมื่อวัดระยะแล้วจะต้องสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตรถึงจะไม่ผิดกฎหมาย
ต่อเติมรถกระบะขายของ : เน้นบรรทุกเพิ่มโช๊คได้ไหม?
นอกจากการควบคุมแล้ว รถแต่ละคันก็มีน้ำหนักที่รองรับได้ไม่เท่ากัน หากต้องการต่อเติมรถกระบะขายของให้เน้นการบรรทุกของน้ำหนักเยอะๆ เป็นหลัก การเพิ่มโช๊คก็จะช่วยในส่วนนี้ได้ คุณสามารถเพิ่มโช๊คได้แต่การเพิ่มโช๊คนั้นจะต้องรายงานต่อกรมการขนส่งทางบกพร้อมทั้งเข้ารับการตรวจสภาพด้วย
ต่อเติมรถกระบะขายของ : อย่าลืมแจ้งกรมการขนส่ง
เพราะการต่อเติมรถกระบะขายของคือการดัดแปลงสภาพรถให้เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นถ้าหากดัดแปลงเรียบร้อยแล้วคุณจะต้องทำการแจ้งเปลี่ยนสภาพรถยนต์กับกรมการขนส่งทางบกด้วย เพื่อที่จะได้อัปเดตข้อมูลลงบนคู่มือจดทะเบียนรถ หากคุณทำการต่อเติมและไม่แจ้งให้ทราบก็มีสิทธิ์ที่เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจพร้อมถูกเรียกค่าปรับได้
ครบแล้วกับข้อกำหนดและข้อควรระวังทั้งหลายหากคุณสนใจที่จะต่อเติมรถกระบะขายของให้ทันสมัยกว่าใคร ทั้งหมดนี้สามารถทำได้โดยต้องอย่าลืมให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนรถกระบะของคุณบนท้องถนนด้วย ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ประกันรถยนต์จึงเป็นอีกส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะประกันรถยนต์จะช่วยคุ้มครองคุณจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่เกิดขึ้น ถึงแม้ประกันรถยนต์หลายๆ ตัวจะมีข้อจำกัดสำหรับรถกระบะที่ถูกต่อเติม แต่คุณก็สามารถเข้ามาหาประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ได้ผ่านทาง Rabbit care เพราะเราได้รวบรวมประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำในประเทศไทยมาให้คุณได้เลือกเรียบร้อยแล้วที่นี่ที่เดียว